การเข้าถึง OA เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน ในหลายๆมหาวิทยาลัยออกภารกิจหรือนโยบายเกี่ยวกับ OA ขึ้นมา ซึ่งภารกิจในการจัดทำ OA นั้น คือ ภารกิจที่สนับสนุนการจัดทำเอกสาร OA โดยองค์กรภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ผู้ที่ทำการวิจัยสามารถนำบทความทางวิชาการและงานวิจัยมาเผยแพร่ สำหรับการเข้าถึงบทความ OA ผู้อ่านสามารถเข้าถึงได้ในรูปแบบดิจิตอล โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
การจัดทำเอกสาร OA เป็นการเปิดความคิด เปิดทัศนะคติและยังช่วยให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ มหาวิทยาลัยหลายๆแห่ง จึงมีการกำหนดนโยบายการจัดทำเอกสาร OA ขึ้น โดยองค์กรที่มีการกำหนดภารกิจ มีทั้งสิ้น 264 องค์กร แบ่งเป็นมหาวิทยาลัย 208 แห่ง ตัวอย่างเช่น
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University)
สำหรับคณะที่ริเริ่มทำเอกสาร OA คือ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เนื่องจากมีความเห็นว่าบทความที่ค้นหาได้จากอินเทอร์เน็ตไม่สามารถเชื่อถือได้ทั้งหมด จึงมีภารกิจในการจัดทำเอกสาร OA ทั้งหมด 9 ข้อ ดังนี้
1. ทางมหาวิทยาลัยได้กำหนดให้คณะต่างๆในมหาวิทยาลัย จัดทำเอกสาร OA ขึ้น โดยใช้ครีเอทีฟคอมมอนที่เป็นสัญลักษณ์ผู้สร้างสรรค์ผลงาน
2. เอกสารที่นำมาจัดทำเป็นเอกสาร OA ไม่สามารถนำไปจำหน่ายเพื่อหวังผลกำไรได้
3. มีการจัดทำคลังเก็บเอกสารที่บุคลทั่วไปสามารถเข้าใช้ได้
4. เจ้าของผลงานสามรถส่งสำเนาให้กับทางคณะได้โดยตรง จากนั้นทางคณะจะนำผลงานไปจัดทำเป็นเอกสาร OA
5. เอกสาร OA จะผ่านการรับรองโดย FAS (Faculty of Art and Science)
6. เอกสารหรือผลงานวิชาการต่างๆ ทางคณะจะพิจารณาถึงความเหมาะสมในการเผยแพร่
7. เมื่อเจ้าของผลงานต้องการเผยแพร่เอกสาร ทางคณะสามารถนำผลงานที่เจ้าของผลงานต้องการไปเผยแพร่ได้ พร้อมทั้งให้การรับรองสิทธิของเจ้าของผลงาน
8. เมื่อนำผลงานมาเผยแพร่ในลักษณะเอกสร OA แล้ว ทางคณะจะรักษาสัญญาอนุญาตหรือสิทธิให้เจ้าของผลงาน โดยไม่มีการกำหนดระยะเวลา
9. เมื่อเกิดปัญหาเกี่ยวกับผลงานต่างๆ ในด้านวิทธิ เจ้าของผลงานสามรถมาทำคำร้องที่มหาวิทยาลัยได้
มหาวิทยาลัยเซาท์แทมตัน (University of Southampton)
ทางมหาวิทยาลัยมีนโยบายที่จะเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัยระดับโลก ส่งผลให้มีการสนับสนุนการจัดทำเอกสาร OA ขึ้น โดยภารกิจการจัดทำเอกสาร OA มีรายละเอียดดังนี้
1. มหาวิทยาลัยส่งเสริมการทำวิจัยให้เป็นรูปแบบเอกสาร OA และเพื่อให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามรถเข้าใช้งานได้
2. ทางมหาวิทยาลัยได้จัดทำคลังเก็บเอกสาร (Eprint) โดยก่อนนำเอกสารมาเผยแพร่ เอกสารในคลังทั้งหมดจะได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ
3. ผู้เขียนมีสิทธิที่จะนำเอกสารต้นฉบับ (Preprint) ของตนไปเผยแพร่ หรือนำไปใช้งานด้านต่างๆ แต่หลังจากได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว ผู้เขียนหรือเจ้าของผลงานจะไม่สามารถกระทำการใดๆกับผลงานของตน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น