วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

E-book and Library

E-book and Library




การเข้าถึง (Access)


- Offline  : หนังสืออิเล็กทรอนิกส์นิยมใช้เป็น Offline  ถ่ายโอนมาที่เครื่องอ่าน
- Online  : อ่านผ่านเครือข่าย ใช้โปรแกรมอ่าน เช่น Adobe Reader, Microsoft Reader


Implementation of E Book
1. Downloadable
    -  ให้บริการ download เป็นสาธารณะ มีโปรแกรมเฉพาะสำหรับอ่าน พิมพ์
    -  อ่านโดยใช้เว็บ Browser download to HD เช่น Project Gutenberg 


2. Decicated e-book readers
    ต้องอ่านผ่านเครื่องอ่านเท่านั้น 


3.  Web accessible e books
     ผู้ใช้สามารถอ่านได้ทั้งรูปแบบออนไลน์ offline ทำสำเนา สั่งพิมพ์  ใช้คอมพิวเตอร์ในการอ่าน



วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Electronic Book (ต่อ)

Electronic Book (ต่อ)




E-book มี 3 ประเภท ได้แก่
1. e-book ช่วงแรกเริ่ม นำสิ่งพิมพ์มาจัดทำเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เผยแพร่ไปทั่วโลก
2. เริ่มจากรูปแบบ CD และนำมาแปลงเป็นรูปแบบ html
3. เรียกว่า born digital เริ่มต้นโดยรูปแบบดิจิตอล


Book Scanner
  มีหลายรุ่น หลายรูปแบบ สามารถแสกนหนังสือได้ตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ (หนังสือพิมพ์)






Optical Character Recognition - OCR
     เป็นการแปลภาพของข้อความจากการเขียนหรือจากการพิมพ์ ไป
เป็นข้อความที่สามารถแก้ไขได้โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ ในรูปแบบ MS word การจับภาพอาจทำโดยเครื่อง scanner กล้องดิจิทัล




การจัดทำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ 
1.จัดทำส่วนบุคคล (Self-publishing) โดยผู้แต่งและตัวกลางจัดจำหน่าย
2.จัดทำเพื่อการค้า (Commercial):  ใช้กับตลาดการค้าและได้รับใบอนุญาตของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์

3. จัดทำเพื่อการศึกษา (Educational) : เผยแพร่ในมหาวิทยาลัยสำหรับหลักสูตรการศึกษา เช่น ตำราเรียน


E-book and Library 


ข้อดีสำหรับห้องสมุด
1. ประหยัดงบประมาณ และสามารถเข้าถึงสารสนเทศได้ในปริมาณที่มากขึ้น
2. ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้จำนวนมากขึ้นในครั้งเดียวกัน
3. ราคาถูกกว่าสิ่งพิมพ์
4. การจัดเก็บสามารถจัดเก็บได้สะดวกขึ้นเนื่องจากสามารถทำสำเนาได้ง่าย
5. ห้องสมุดสามารถจัดทำสิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ และสามารถให้บริการออนไลน์ได้

ข้อเสียสำหรับห้องสมุด
1. บุคลากรต้องได้รับการฝึกฝนใหม่เกี่ยวกับการจัดการให้บริการ
2. ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการขาด reader device
3. ผู้ใช้ต้องได้รับการอบรม 
4. ต้องเข้าใจวิธีการตกลง ดูแลเกี่ยวกับการเข้าถึง และ การให้บริการที่ต้องทำการตกลงกับผู้ให้บริการ





วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Electronic Book


Electronic Book





      เป็นหนังสือที่อ่านผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์  เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์  หรือเครื่องอ่าน e-book โดยเฉพาะ  สามารถแสดงผลด้วยภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหวได้ นอกเหนือจากข้อความที่เป็นตัวอักษร
     e-book ในระยะแรกเริ่มแปลงจากสิ่งพิมพ์ เช่น Gutenberg Project รวบรวมหนังสือเก่าๆมาจัดทำ และเผยแพร่ไปทั่วโลก






         e-Pub คือ มาตรฐานของ E-Book ที่ไม่มีลิขสิทธิ์ไฟล์ของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์  ลักษณะคล้ายการบีบอัดแฟ้มข้อมูลเหมือนการทำไฟล์ Zip


คุณสมบัติ E Book reader

1. ค้นภายในเนื้อหา (inside search, keyword searching)
2. พจนานุกรม (dictionary capabilities)
3. ปรับขยายตัวอักษร ตำแหน่งการอ่านอ่านออกเสียงได้เชื่อมโยง (hyperlink)เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (internet)


ข้อดีของ e-book

1. มีทั้งภาพและเสียง 
2. เข้าถึงได้อย่างรวดเร็วและเป็นจำนวนมาก
3. เก็บรักษาได้ง่าย ประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ ประหยัดค่าเก็บรักษา
4. ประหยัดการตัดไม้ทำลายป่า เพราะไม่ต้องตัดไม้มาทำกระดาษ


ข้อด้อยของ e-book

1.  มีโอกาสละเมิดลิขสิทธิ์สูง

2. อาศัยพลังงานในการอ่านตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าหรือ
แบตตารี่

3. เสียสุขภาพสายตา จากการได้รับแสงจากอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์





วันพุธที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ภารกิจในการเข้าถึง OA ในระดับมหาวิทยาลัย


ภารกิจในการเข้าถึง OA ในระดับมหาวิทยาลัย





       การเข้าถึง OA เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกัน ในหลายๆมหาวิทยาลัยออกภารกิจหรือนโยบายเกี่ยวกับ OA ขึ้นมา ซึ่งภารกิจในการจัดทำ OA นั้น คือ ภารกิจที่สนับสนุนการจัดทำเอกสาร OA โดยองค์กรภาครัฐและเอกชน เพื่อให้ผู้ที่ทำการวิจัยสามารถนำบทความทางวิชาการและงานวิจัยมาเผยแพร่  สำหรับการเข้าถึงบทความ OA ผู้อ่านสามารถเข้าถึงได้ในรูปแบบดิจิตอล โดยไม่เสียค่าใช้จ่า
       การจัดทำเอกสาร OA  เป็นการเปิดความคิด เปิดทัศนะคติและยังช่วยให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ มหาวิทยาลัยหลายๆแห่ง จึงมีการกำหนดนโยบายการจัดทำเอกสาร OA ขึ้น  โดยองค์กรที่มีการกำหนดภารกิจ มีทั้งสิ้น 264 องค์กร แบ่งเป็นมหาวิทยาลัย 208 แห่ง  ตัวอย่างเช่น


มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University)


    สำหรับคณะที่ริเริ่มทำเอกสาร OA คือ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เนื่องจากมีความเห็นว่าบทความที่ค้นหาได้จากอินเทอร์เน็ตไม่สามารถเชื่อถือได้ทั้งหมด จึงมีภารกิจในการจัดทำเอกสาร OA ทั้งหมด 9 ข้อ ดังนี้
    1. ทางมหาวิทยาลัยได้กำหนดให้คณะต่างๆในมหาวิทยาลัย จัดทำเอกสาร OA ขึ้น โดยใช้ครีเอทีฟคอมมอนที่เป็นสัญลักษณ์ผู้สร้างสรรค์ผลงาน
    2. เอกสารที่นำมาจัดทำเป็นเอกสาร OA ไม่สามารถนำไปจำหน่ายเพื่อหวังผลกำไรได้
    3. มีการจัดทำคลังเก็บเอกสารที่บุคลทั่วไปสามารถเข้าใช้ได้
    4. เจ้าของผลงานสามรถส่งสำเนาให้กับทางคณะได้โดยตรง จากนั้นทางคณะจะนำผลงานไปจัดทำเป็นเอกสาร OA
    5. เอกสาร OA จะผ่านการรับรองโดย FAS (Faculty of Art and Science)
    6. เอกสารหรือผลงานวิชาการต่างๆ ทางคณะจะพิจารณาถึงความเหมาะสมในการเผยแพร่
    7. เมื่อเจ้าของผลงานต้องการเผยแพร่เอกสาร ทางคณะสามารถนำผลงานที่เจ้าของผลงานต้องการไปเผยแพร่ได้ พร้อมทั้งให้การรับรองสิทธิของเจ้าของผลงาน
    8. เมื่อนำผลงานมาเผยแพร่ในลักษณะเอกสร OA แล้ว ทางคณะจะรักษาสัญญาอนุญาตหรือสิทธิให้เจ้าของผลงาน   โดยไม่มีการกำหนดระยะเวลา
    9. เมื่อเกิดปัญหาเกี่ยวกับผลงานต่างๆ ในด้านวิทธิ  เจ้าของผลงานสามรถมาทำคำร้องที่มหาวิทยาลัยได้




มหาวิทยาลัยเซาท์แทมตัน (University of Southampton)


    ทางมหาวิทยาลัยมีนโยบายที่จะเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัยระดับโลก  ส่งผลให้มีการสนับสนุนการจัดทำเอกสาร OA ขึ้น โดยภารกิจการจัดทำเอกสาร OA มีรายละเอียดดังนี้


    1. มหาวิทยาลัยส่งเสริมการทำวิจัยให้เป็นรูปแบบเอกสาร OA และเพื่อให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามรถเข้าใช้งานได้
    2. ทางมหาวิทยาลัยได้จัดทำคลังเก็บเอกสาร (Eprint) โดยก่อนนำเอกสารมาเผยแพร่ เอกสารในคลังทั้งหมดจะได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด  โดยนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ
    3. ผู้เขียนมีสิทธิที่จะนำเอกสารต้นฉบับ (Preprint) ของตนไปเผยแพร่ หรือนำไปใช้งานด้านต่างๆ แต่หลังจากได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว ผู้เขียนหรือเจ้าของผลงานจะไม่สามารถกระทำการใดๆกับผลงานของตน








  

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Open Access Journals





Open Access Journals

Open Access Journals มี
ลักษณะดังต่อไปนี้

1. เป็นวารสารวิชาการ
2. มีการดำเนินงานเช่นเดียวกับวารสารทั่วไป (มีกองบรรณาธิการ, มีการแก้ไขก่อนเผยแพร่)
3. เป็นเอกสารที่อยู่ในรูปแบบดิจิตอลและเข้าถึงได้อย่างอิสระและเป็นสาธารณะ
4. สามารถใช้ Creative common หรือลิขสิทธิ์อื่นๆได้


ประเภทของ Open Access Journals

1.  Born-OA Publishers

     เป็นวารสารที่ยังไม่เคยตีพิมพ์  รวมถึงเป็นวารสารดิจิตอลที่เผยแพร่โดยไม่หวังผลกำไรหรือไม่ใช้ในเชิงพานิชย์  มักใช้ Creative common License   


2. Conventional Publishers


    วารสารเชิงพานิชย์  มีนโยบายแบบ OA 


3. Non-Traditional Publishers


   วารสารที่ไม่หวังผลกำไร  ไม่จัดทำเพื่อการค้า  เดิมเป็นวารสารฉบับพิมพ์ ซึ่งให้บริการฟรี  


วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Implementing open access

Implementing open access

Green OA :  บทความที่ผู้เขียนมาจัดเก็บไว้ในเว็บไซต์ของตนเอง หรือ คลังความรู้องค์กร  เพื่อนำไปเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตต่อ  สามารถเป็นได้ทั้งแบบฉบับร่างและฉบับสมบูรณ์

Gold OA :  วารสารหรือบทความวิชาการที่เปิดให้เข้าถึงได้อย่างอิสระทันทีที่ส่งตีพิมพ์


รูปแบบการนำเสนอ Self-Archiving

1. Author's Personal Websites
      เป็นเว็ปไซต์ส่วนบุคคล   มีการเชื่อมโยงเว็บเพจที่เกี่ยวข้องกับ E-print ในรูปแบบ HTML , PDF , Word หรือรูปแบบอื่นๆ  ซึ่งสามารถนำเข้า ปรับปรุงหรือเผยแพร่ E-print ได้ง่ายและไม่ยุ่งยาก  
    เว็บไชต์ต่างๆมักจัดทำดัชนีใน search engine  เพื่อง่ายต่อการค้นหาข้อมูลเฉพาะเีกี่ยวกับ e-print

2. Disciplinary Archives
     คลังจัดเก็บเอกสารเฉพาะสาขาวิชา  อาจเกิดในระดับมหาวิทยาลัยหรือรวมตัวกับสถาบันภายนอกก็ได้  รวมถึง e-print หรือสิ่งพิมพ์ประเภทอื่นๆในรูปแบบดิจิตอล  โดยผู้เขียนจากทั่วโลก

3.Institutional-Unit Archives
     เป็นการจัดเก็บข้อมูลของหน่วยงานย่อย ภายใต้องค์กรหรือสถาบันนั้นๆ  มีลักษณะคล้ายกับเว็ปไซต์ส่วนบุคคลที่สามารถใช้ในรูปแบบ open source software และ disciplinary archives

4. Institutional Repositories
    เป็นคลังเก็บสารสนเทศในระดับสถาบันรูปแบบดิจิตอล เช่น วิทยานิพนธ์อิเล็กทรอนิกส์ e-print งานนำเสนอและรายงานทางเทคนิค ซึ่งจัดทำโดยสถาบันการศึกษาหรือหลายสถาบันร่วมมือกันจัดทำ  ส่วนใหญ่ผู้ดูแลก็คือห้องสมุด  จึงมีบทบาทมากในการผลักดันให้เกิดคลังเก็บสารสนเทศระดับสถาบัน หรือ IR

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554

คำที่ควรทราบ

คำที่ควรทราบ 


 Preprint  

    เป็นฉบัยก่อนพิมพ์หรือฉบับร่างที่ยังไม่ผ่านการประเมินหรือตรวจสอบจากผู้ทรงคุณวุฒิ


 Postprint  

    เป็นฉบับสมบูรณ์หรือแก้ไขสมบูรณ์แล้ว  อาจเป็นฉบับที่สำนักพิมพ์นำมาตีพิมพ์หรือปรับปรุงจาก preprint ซึ่งผู้เขียนทำการปรับปรุงระหว่างรอการประเมินคุณภาพและอยู่ในระหว่างการดำเนินการของการตีพิมพ์



Grey Literature 

    วรรณกรรมหรือผลงานที่มีการตีพิมพ์หรือเผยแพร่ในวงจำกัด  กล่าวคือ สารสนเทศข้อมูลที่จัดทำโดยรัฐ  สถาบันการศึกษา  องค์กรธุรกิจและอุตสาหกรรม  ในลักษณะเป็นสิ่งพิมพ์และไม่ใช่สิ่งพิมพ์  โดยไม่ใช่การผลิตในเชิงการพิมพ์เพื่อธุรกิจ
White paper   เป็นเอกสารเผยแพร่ความรู้หรือบทความที่บุคคล/กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ  นำเสนอเพื่ออธิบายถึงผลการพัฒนา  ไม่ใช่งานโฆษณาหรือโฆษณาชวนเชื่อ  แต่ต้องเป็นข้อมูลที่มีข้อเท็จจริง  จัดเป็นกระบวนการให้การศึกษาแก่ประชาชน  


Errata/Corrigends






copy right & open license


ลิขสิทธิ์  (Copy right)

          กฎหมายให้ความคุ้มครองลิขสิทธิ์ เพราะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์  เป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานนั้นๆขึ้นมา  โดยสร้างจากสติปัญญาและความสามารถ  จึงต้องได้รับความคุ้มครองจากการที่บุคคลอื่นจะนำงานนั้นไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต


ระยะเวลาที่ให้ความคุ้มครอง
 - ในอดีตให้ความคุ้มครอง 50 ปี แต่ปัจจุบันให้ความคุ้มครองถึง 70 ปี
 -  ในสหรัฐอเมริกา สำหรับผลงานองค์กร  ให้ความคุ้มครอง 120 ปี


พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
  มาตรา 27  หากมีการทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน  อย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้โดยไม่ได้รับอนุญาติตามมาตรา 15(5) ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
  มาตรา 69 ผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิ์ของนักแสดงตามมาตรา 27 , 28 , 29 ,30 หรือมาตรา 52 ต้งระวางโทษปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หากเป็นการกระทำเพื่อการค้าต้องระวางโทษจำคุกหรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ
  มาตรา 33 การกล่าว  คัด  ลอก  เลียน หรือ อ้างอิงงานบางตอนตามสมควรจากงานอันมีลิขสิทธิ์ โดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น  มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์


ลิขสิทธิ์โดยธรรม (Fair use)
- อนุญาตให้ทำในขอบเขตจำกัด
- อนุญาตให้ทำสำเนางานที่มีลิขสิทธิ์ในจำนวนจำกัด  เพื่อวัตถุประสงค์ในการศึกษาและวิจัยห้องสมุด  การใช้งานโสตทัศนวัสดุหรือภาพยนตร์ งานศิลปกรรม  งานสถาปัตยกรรม
- เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิจารณ์  รายงานข่าว ใช้ในการสอน  (รวมถึงทำสำเนาหลายชุด สำหรับใช้ในห้องเรียน) งานวิจัยและงานวิชาการ  โดยไม่ต้องขออนุญาต


หลักการใช้งานลิขสิทธิ์โดยชอบธรรม
    สามารถกระทำได้หากมีวัตถุประสงค์ดังนี้
 1. วิจัยหรือศึกษา
 2. ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลในครอบครัวหรือญาติมิตร
 3. ติชม วิจารณ์หรือแนะนำผลงาน  โดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น
 4. ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือทำให้ปรากฏโดยผู้สอน เพื่อประโยชน์ในการสอนของตน
 5. นำงานนนั้นมาใช้ในการถามและตอบในข้อสอบ


ปริมาณที่ถือว่าใช้อย่างเหมาะสมที่ถือปฏิบัติกัน
- หนังสือ : ไม่เกิน 1 เรื่อง
- นิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ : ไม่เกิน 1 บทความ (เว้นแต่มีหลายบทความที่มีเรื่องเกี่ยวเนื่องกัน)
- เรื่องสั้น เรียงความ บทกวี (ขนาดสั้น) : ไม่เกิน 1 บทหรือตอน
- สื่อที่มีภาพเคลื่อนไหว : 10 % หรือ 3 นาที
- ข้อความ : 10% หรือ 1000 คำ
- เพลงหรือวีดีโอเพลง : 10% แต่ไม่เกิน 30 วินาที


สิทธิโดยธรรมห้องสมุด 2537
    หลักการใช้งานลิขสิทธิ์โดยชอบธรรมด้วยการทำซ้ำ โดยคำนึงถึงความเหมาะสม  ไม่ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์  หากการทำซ้ำนั้นไม่ได้มีวัตุประสงค์เพื่อหากำไร  ในกรณีต่อไปนี้
- การทำซ้ำสำหรับใช้ในห้องสมุดหรืือให้แก่ห้องสมุดอื่น
- การทำซ้ำงานบางตอนตามสมควรให้แก่บุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ในการวิจัยหรือศึกษา


ห้องสมุด USA
   ห้องสมุดทำสำเนาไม่เกิน 1 สำเนา  ไม่ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้า
       - ไม่มีวัตถุประสงค์ทางตรงตรงหรือทางอ้อม  เพื่อผลประโยชน์ทางการค้า
       - เก็บรักษาห้องสมุดนั้นเปิดให้สาธารณชนเข้าถึงได้
   งานที่ไม่ได้ตีพิมพ์  ทำสำเนาได้ 3 สำเนา  เพื่อเก็บรักษาในห้องสมุดอื่น  ถ้า
       - ในปัจจุบันยังมีต้นฉบับอยู่ในห้องสมุด
       - ไม่เผยแพร่สำเนานั้นในรูปแบบดิจิตอลออกไปเป็นสาธารณะนอกสถานที่เก็บรักษา
   งานที่ตีพิมพ์  ทำสำเนาได้ 3 สำเนา  แทนชุดที่ชำรุด  เสียหาย หรือสูญหาย ถ้า
       - ห้องสมุดไม่สามารถหามาทดแทนได้ในราคาที่เป็นธรรม
       -  ไม่เผยแพร่สำเนานั้นในรูปแบบดิจิตอลออกไปเป็นสาธารณะนอกสถานที่เก็บรักษา


การพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์และผลกระทบต่อห้องสมุด
   - สำนักพิมพ์เลือกผลิตเฉพาะวารสารวิชาการอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น
   - การลดจำนวนบอกรับวารสาร  มีผลกระทบอย่างมากต่อนักวิชาการหรือนักศึกษาวิจัยป
   - ปัญหาการถูกบังคับให้ซื้อหรือบอกรับเป็น package
   - ปัญหาในข้อจำกัดการเข้าใช้ e-book เล่มที่ได้รับความนิยม
 

วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Open Access : OA


Open Access : OA

        เป็นแนวคิดที่เปิดให้เข้าถึงอย่างเสรีและไม่จำกัดสิทธิ์ในการใช้  โดยอนุญาติให้ผู้ใช้คัดลอก  ถ่ายโอน  เชื่อมโยง  แจกจ่าย  นำไปใช้เพื่อการค้าได้  โดยไม่ต้องขออนุญาติ


       เดิม OA นั้นเป็นบทความทางวิชาการในรูปแบบดิจิตัล  ซึ่งให้บริการบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเท่านั้น  แต่ปัจจุบันครอบคลุมถึงวิทยานิพนธ์  เอกสารสัมนา  เอกสารการประชุม  เอกสารการสอน 
สื่อโสตทัศนวัสดุ  เช่น  เพลง  วีดีโอ  รูปภาพ  เป็นต้น


       อย่างไรก็ตาม OA นั้นไม่รวมถึงนวนิยาย  บทความในนิตยสาร  เว็บไซต์อื่นๆ เช่น Wikipedia  Blog เป็นต้น  ที่สามารถเปิดให้ดูได้  เพราะมีรูปแบบที่เปิดเนื้อหาให้เข้าถึงได้อย่างสาธารณะ  แต่ผู้จัดจะยังคงความเป็นส่วนตัว  เนื้อหาไม่อนุญาติให้นำไปใช้  เว้นแต่มีการแจ้งว่าเป็นแบบ open access


พัฒนาการที่ทำให้เกิด Open Access


       1.  สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-publishing)
       2.  สื่อออนไลน์หรืออินเทอร์เน็ต
       3.  สื่อดิจิตัล  เช่น e-book , e-journal  เป็นต้น


Institutional Repository : IR

คลังเก็บสารสนเทศ (Institutional Repository : IR)

   
          จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการ  ซึ่งมีการจัดการและเผยแพร่งานในรูปแบบดิจิทัลขึ้น  
   
ประโยชน์ของการมีคลังเก็บสารสนเทศ


1.  เป็นเอกสารที่นำเสนอในรูปแบบ Electronic  ทำให้ผู้ใช้สะดวกและเข้าถึงได้ง่ายกว่าทรัพยากรสารสนเทศแบบสิ่งตีพิมพ์


2.  ทำให้เกิดระบบการรวบรวม สงวนรักษา และเผยแพร่เนื้อหาทางวิชาการ   รวมถึงสามารถเข้าถึงได้ในระยะยาว


3.  เป็นการสงวนรักษาทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบ Electronic


4.  เป็นเสมือนพื้นฐานของกระบวนทัศน์ใหม่ในการพิมพ์ผลงานทางวิชาการ


5.  เป็นการจัดการความรู้และสนับสนุนการเข้าถึงอย่างเสรี